ส่งมอบธารน้ำใจชาวโคราชสู่ชายแดนไทย – กัมพูชา

#ส่งมอบธารน้ำใจชาวโคราชสู่ชายแดนไทย – กัมพูชา #หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาระดมพลังภาคี ร่วมมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ.วันที่ 30 ก.ค. 68 หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายไพจิตร มานะศิลป์ ประธานหอการค้าฯ พร้อมด้วยนายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ รองประธานฝ่ายเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน , ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร และเครือข่ายพันธมิตร ได้เดินทางไปยังจังหวัด สุรินทร์ และ บุรีรัมย์ เพื่อมอบเงินบริจาคและสิ่งของจำเป็นแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับใช้ช่วยเหลือทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และร่วมลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ดังกล่าว.การดำเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (หลักเสียงเซี่งตึ๊ง) , สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา , สมาคมธนาคารไทยจังหวัดนครราชสีมา , YEC KORAT , ศาลเจ้าแม่ทับทิมจังหวัดนครราชสีมา , บริษัท มีโชคขนส่ง จำกัด , ราชสีมารุ่น 89 ซึ่งทุกภาคส่วนต่างแสดงน้ำใจอย่างเต็มที่ โดยรวบรวมทั้งเงินสดและสิ่งของที่จำเป็น เช่น เวชภัณฑ์ ยารักษาโรค อาหารแห้ง น้ำดื่ม และอุปกรณ์ยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน.สรุปยอดเงินบริจาคจากชาวโคราชที่หอการค้าฯ เปิดรับบริจาคไปเมื่อวันที่ 26 – 28 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา เป็นยอดรวมทั้งสิ้น 109,000 บาทโดยหอการค้าฯ ได้จัดสรรไปบริจาคดังนี้-มอบให้กับโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา อ.พนมดงรัก จ. สุรินทร์ 30,000 บาท-มอบให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จ.ศรีสะเกษ 20,000 บาท-มอบให้กับศูนย์พักพิง จ.บุรีรัมย์ 10,000 บาท-มอบให้กับศูนย์พักพิง จังหวัดสุรินทร์ 10,000 บาท-มอบให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บคืนวันที่ 28 กค. 68 จ.บุรีรัมย์ 3 นาย จำนวน 6,000 บาท พร้อมกระเช้าให้กำลังใจ -มอบให้หอการค้า จ.อุบลฯ 10,000 บาท-มอบกระเช้าให้กำลังใจกับทหารโคราชที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเช้าวันที่ 29 -30 กค.68 27 นาย ที่ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี 23,000 บาท รวม = 109,000 บาท.“ในนามของชาวโคราช เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจให้กับทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงพลังของความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัด ที่ต้องการร่วมกันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”