Startup จากเกาหลี คือ บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้ได้
เวลาเราพูดถึงเกาหลีใต้ หลายคนคงนึกถึง K-Pop ซีรีส์ดัง หรือเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ถ้าเรามองลึกลงไปอีกนิด จะเห็นว่าประเทศนี้เขาไม่ได้โตเพราะโชคช่วย เขาโตเพราะมี “ระบบนิเวศ” ที่ผลักดันผู้ประกอบการเล็ก ๆ ให้กลายเป็นธุรกิจที่เดินไปได้ไกลถึงตลาดโลก รัฐบาลของเขาไม่เพียงแต่ให้ทุนหรือเงินสนับสนุน แต่ยังสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการได้เจอกับนักลงทุนจากต่างประเทศ มีการจัดโปรแกรมให้สตาร์ทอัพเกาหลีออกไปสัมผัสตลาดใหม่ ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น บางโครงการทีเกาหลีทำกันเขาเรียกครงกสรนี้ว่า “Global Track. คือปั้นธุรกิจให้คิดแบบข้ามพรมแดนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเดิน Think Global.
สิ่งเหล่านี้ทำให้เกาหลีติดอันดับโลกเรื่องสตาร์ทอัพ และไม่ใช่แค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่รวมถึงความบันเทิง อาหาร วัฒนธรรม — ทุกอย่างที่ต่อยอดจาก “ของดีที่ตัวเองมี”แล้วกลับมามองบ้านเราอย่างโคราชของเราอยู่ตรงไหน?
โคราชก็ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ในหลาย ๆ ด้าน เรามีของดีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การท่องเที่ยว วัฒนธรรม หรือแม้แต่ฝีมือของชุมชนเล็ก ๆ ที่ยังไม่ถูกเล่าเรื่องออกไปสู่โลกกว้าง
โดยจุดแข็งของโคราชคือ เรามีทั้งคน มีทรัพยากร และมีเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร เพียงแต่เรายังไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับเวทีระดับนานาชาติอย่างจริงจัง
ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าเราสามารถสร้าง โครงการที่จะช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ได้เรียนรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ การสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงใจคนต่างชาติ หรือแม้แต่การไปดูงานในต่างประเทศ เพื่อกลับมาเล่าเรื่องธุรกิจของเราใหม่ให้ชัดเจนขึ้น. ทางหอการค้าโคราชได้เริ่มคุยกับทาง Innostart Center ศูนย์พัฒนานวัตกรรมธุรกิจและผู้ประกอบการ หอการค้าของเราสามารถเป็น สะพาน ที่เชื่อมผู้ประกอบการกับนักลงทุน มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรต่างประเทศได้ เหมือนที่เกาหลีทำ แต่ปรับให้เข้ากับรากฐานของโคราชเราจุดเล็ก ๆ ที่เริ่มได้วันนี้
1. เล่าเรื่องของเราให้ดังขึ้น – ทุกผลิตภัณฑ์ของโคราชมีเรื่องเล่า ถ้าเล่าให้ดี มันจะกลายเป็นจุดขายในตลาดโลก
2. สร้างเครือข่ายให้กว้างขึ้น – ไม่จำกัดแค่ในจังหวัด แต่ไปถึงระดับภูมิภาคและต่างประเทศ
3. เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ – ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่การเข้าใจเทคโนโลยีจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น
4. ทำงานร่วมกัน – ผู้ประกอบการโคราชไม่ควรมองกันเป็นคู่แข่งอย่างเดียว แต่เป็นเพื่อนร่วมทางที่ช่วยกันดันให้ทั้งเมืองโตและจากเรื่องราวของเกาหลีสอนเราว่า ถ้าอยากไปให้ไกล เราต้อง “คิดไกล” ตั้งแต่วันแรก โคราชเองก็มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางธุรกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญของอีสาน และอาจต่อยอดไปถึงระดับนานาชาติสิ่งที่เราต้องทำคือ รวมพลังกัน ให้หอการค้าเป็นเสมือนเวทีและสะพาน ที่ช่วยผู้ประกอบการทุกคนไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ได้มีโอกาสก้าวออกไปสู่โลกกว้างเพราะสุดท้ายแล้ว… การเติบโตของผู้ประกอบการแต่ละราย ก็คือการเติบโตของโคราชทั้งเมือง.